เกี่ยวกับเรา

Ben and Jerry เช่าพื้นที่ว่างในโรงงานกระสวยและหลอดด้ายเก่า ๆ บนถนน South Champlain ในเบอร์ลิงตัน และเริ่มแพ็คไอศกรีมของพวกเขาในถ้วยไอศกรีม เหตุผลน่ะหรือ? เพื่อจัดส่งไอศกรีมไปยังร้านขายของชำและร้านขายของเบ็ดเตล็ด Mom & Pop ตามเส้นทางจัดส่งไปยังร้านอาหารโดยบริการของ Ben ด้วยการบรรทุกขึ้นหลังรถ VW Squareback คันเก่าของเขา

เมื่อข่าวของ Ben & Jerry's แพร่ออกไป ผู้คนก็ต้องการลิ้มลองรสชาติไอศกรีมขึ้นเรื่อย ๆ และแล้ว…ร้านไอศกรีมแฟรนไชส์แห่งแรกก็ได้เปิดตัวขึ้นในเชลเบิร์น รัฐเวอร์มอนต์

ปั๊มน้ำมันเก่านั้นถูกรื้อถอนเพื่อสร้างลานจอดรถ ก่อนที่บอลทำลายล้างจะถูกเหวี่ยง Ben & Jerry's บนถนน Cherry ในเบอร์ลิงตันก็ผุดขึ้นและดำเนินธุรกิจ

ได้มีการใช้ไอศกรีมของ Ben & Jerry's เพื่อสร้าง "ไอศกรีมที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ในเซนต์ อัลบานส์ รัฐเวอร์มอนต์ ซึ่งซันเดย์นั้นมีน้ำหนักถึง 27,102 ปอนด์ (12,293 กิโลกรัม)

Ben & Jerry's กำหนดแบบอย่างโดยการค้นพบข้อกำหนดที่รู้จักกันน้อยเกี่ยวกับหุ้นและการซื้อขายหลักทรัพย์ จากนั้นจัดตั้งหุ้นสาธารณะของเฉพาะเวอร์มอนต์โดยเสนอให้มีการระดมเงินเพื่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่

ได้มีการจัดตั้งมูลนิธิ Ben & Jerry's ขึ้นโดยได้รับเงินที่เป็นของขวัญจาก Ben และ Jerry จาก 7.5% ของผลกำไรก่อนหักภาษีประจำปีของบริษัทเพื่อให้เงินทุนแก่โครงการที่เน้นชุมชนเป็นสำคัญ

Ben & Jerry's เปิดตัว Cowmobile บ้านเคลื่อนที่ดัดเเปลงซึ่งใช้เพื่อแจกสกู๊ปไอศกรีมฟรีเพื่อ "ขับเคลื่อนการตลาด" แบบเฉพาะตัวที่วิ่งไปทั่วประเทศ ตอนขากลับ Cowmobile ไหม้จนไม่เหลือซากนอกเคลฟเวอร์แลนด์ รัฐโอไฮโอ (โชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ) Ben บอกว่า "มันดูเหมือนอลาสก้าอบที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลย'

Ben & Jerry's เปิดตัวไอศกรีม Cherry Garcia® ได้มีการตั้งชื่อตามนักกีตาร์ Jerry Garcia ของวง Grateful Dead โดยคำแนะนำของสมาชิกวง "DeadHeads" จากพอร์ทแลนด์ รัฐเมน และ Cherry Garcia® ก็กลายเป็นไอศกรีมแรกที่ได้รับการตั้งชื่อตามตำนานร็อค

Ben และ Jerry ได้รับการขนานนามเป็น “บุคคลแห่งปีสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐฯ” โดยประธานาธิบดี Reagan ในพิธี White House Rose Garden และแล้วสูทของ Jerry ก็ได้ใช้ประโยชน์ และโชคดีที่ Ben มีเเจ็คเก็ตบริกรสไตล์อิตาลีสวมใส่ไปในงาน

Ben & Jerry's ออกมาต่อต้าน Recombinant Bovine Growth Hormone (rBGH) ด้วยเหตุที่กังวลว่าผลิตภัณฑ์นมจะส่งผลด้านเศรษฐกิจที่รุนแรงต่อการทำฟาร์มในระดับครอบครัวและความมั่นใจของประชาชนที่มีต่อผลิตภัณฑ์นมที่บริสุทธิ์

ถ้วยไอศกรีม 8 ล้านถ้วยของ Ben & Jerry's มีข้อความ "Support Farm Aid (สนับสนุนการช่วยเหลือฟาร์ม)" เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในระดับรากหญ้าของ Farm Aid ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีพันธกิจคือ เพื่อช่วยครอบครัวเกษตรกรให้ยังอยู่บนผืนดินของตนเอง

มีการเปิดตัว Chocolate Chip Cookie Dough ในถ้วยไอศกรีมหลังผ่านการวิจัยและพัฒนามาหลายปี รสชาตินี้พุ่งขึ้นเป็นไอศกรีมในถ้วยไอศกรีมที่ได้รับความนิยมสูงสุด และปัจจุบันยังอยู่เป็นรสชาติยอดฮิตของเราไม่เสื่อมคลาย (ล็อตการผลิตรสชาติที่พัฒนาขึ้นครั้งแรกในร้านไอศกรีม Ben & Jerry’s ในเบอร์ลิงตันในปี 1984 ซึ่งเกิดมาจากการทิ้งโน๊ตไว้โดยไม่ระบุชื่อที่เขียนอยู่บนกระดานแนะนำของร้าน)

Ben & Jerry's เข้าร่วมแคมเปญกับ Children's Defense Fund (กองทุนปกป้องเด็ก) ที่ไม่แสวงหาผลกำไรของประเทศ โดยแคมเปญนี้มีเป้าหมายเพื่อนำความต้องการพื้นฐานของเด็ก ๆ มาเป็นวาระแห่งชาติ ได้มีการส่งโปสการ์ดมากกว่า 70,000 แผ่นไปยังสภาคองเกรสเกี่ยวกับปัญหาเกี่ยวกับเด็กและปัญหาระดับชาติอื่น ๆ

Wavy Gravy ก้าวนำชุดรสชาติใหม่ ๆ ตั้งชื่อตามบุคคลที่มีชื่อเสียงในเทศกาล Woodstock Festival ในทศวรรษ 1960 ซึ่งปัจจุบันเป็นองค์กรช่วยเหลือเด็กที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ดำเนินการโดยบุคคลเพียงคนเดียว

ถ้วยไอศกรีมของ Ben & Jerry's เริ่มปรากฏตัวในสหราชอาณาจักร

นักท่องเน็ตหลายแสนคนเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Ben & Jerry's เพื่อลิ้มรสเรื่องขำ ๆ มากมายแบบเสมือน

Ben & Jerry's เปิดตัวเชอร์เบตที่ทำจากน้ำแร่บริสุทธิ์ พร้อมทั้งผลไม้และเครื่องปรุงแต่งรสที่ดีที่สุด มีการตั้งชื่อ Doonesberry® Sorbet ตามตัวละครการ์ตูน "Doonesbury®" ตั้งแต่นั้นมาก็ได้มีการส่งไปยัง Flavour Graveyard

ดนตรีที่ยอดเยี่ยมและทัวร์คอนเสิร์ตที่มีชื่อเสียงของกลุ่มดนตรีในเวอร์มอนต์ วง Phish® เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ไอศกรีม Phish Food®

บางคนคิดว่าบรรจุภัณฑ์ของเราอ่านยาก (และแต่รสชาติก็ยากที่จะปฏิเสธด้วย) ดังนั้นหลังผ่านไป 20 ปีเราจึงตกแต่งถ้วยไอศกรีมของเราด้วยลุคสดใหม่!

ในสหราชอาณาจักร Ben & Jerry’s เปิดตัว The Flying Friesian ซึ่งเป็นรถทัวร์ที่ดัดแปลงมาเพื่อความสนุกสนานและมุ่งเน้นไปที่การระดมทุนสำหรับ Childline ซึ่งเป็นเครือข่ายเด็กผู้ยากไร้ในสหราชอาณาจักร

3 สิงหาคม 2000: Ben & Jerry's ได้กลายมาเป็นบริษัทในเครือของ Unilever ที่มีกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ ด้วยข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการที่เป็นเอกลักษณ์ จึงได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นเพื่อเป็นผู้นำในการรักษาไว้ซึ่งและขยายพันธกิจทางสังคม บูรณภาพของแบรนด์ และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของ Ben & Jerry's เราเรียกคณะกรรมการอิสระเหล่านี้ว่า B.O.D. (ซึ่งหมายความว่า เราชอบพวกเขามากจริง ๆ)

Citizen Cool เป็นสารคดีเกี่ยวกับคนทั่วไปที่สร้างความแตกต่างให้กับชุมชนของพวกเขา เราฉลองการเปิดตัวใหม่นี้ด้วยรสชาติที่ได้รับแรงบันดาลใจจากของกินสุดพิเศษในภาพยนตร์ ที่เรียกว่า Concession Obsession

ซึ่งเกี่ยวกับไอศกรีมรสชาติหนึ่ง ...เกี่ยวกับเว็บไซต์ปฏิบัติการด้านสภาพแวดล้อม...เกี่ยวกับ One Sweet Whirled™ และเชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด เมื่อ Ben & Jerry's ร่วมมือกับ Dave Matthews Band® & SaveOurEnvironment.org ในแคมเปญเพื่อช่วยต่อสู้กับภาวะโลกร้อน

Ben & Jerry's เริ่มต้นปีด้วยปาร์ตี้วันเกิดที่โรงงานของเราในวอเตอร์บิวรี รัฐเวอร์มอนต์ ใน Winter Fest ครั้งแรก และยังคงสนุกมาอีกถึง 25 ปีหลังจากนั้น

Ben & Jerry's ร่วมมือกับ Rock the Vote เพื่อความพยายามที่จะผลักดันการเพิ่มจำนวนผู้โหวตรุ่นเยาว์ในสหรัฐอเมริกา ทีม RTV บนถนนใช้ประโยชน์จากลูกค้าแถวยาวเหยียดในวัน Free Cone Day เพื่อลงทะเบียนผู้โหวตมากกว่า 11,000 คน ซึ่งเป็นการลงทะเบียนผู้คนรากหญ้าในหนึ่งวันที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ Rock the Votes

เพื่อประท้วงการขุดเจาะน้ำมันใน Arctic National Wildlife Refuge เราได้สร้างอลาสก้าอบขนาด 900 ปอนด์พร้อมด้วยไอศกรีม Fossil Fuel ของเรา จากนั้นแบกอลาสก้าอบไปยังสนามหญ้ารัฐสภาสหรัฐอเมริกาและเสิร์ฟโดยความช่วยเหลือของ Greenpeace และ Alaska Wilderness League

Ben & Jerry's ดำเนินการสนับสนุนการค้าที่เป็นธรรมซึ่งเริ่มด้วย Coffee และการเปิดตัว Coffee Coffee BuzzBuzzBuzz ในปี 1996 โดยเพิ่มสายการผลิตรสวานิลลาและช็อคโกแลตเข้าไป การรับรองของแฟร์เทรด (การค้าที่เป็นธรรม) รับประกันว่า เกษตรกรที่ปลูกวานิลลาและเมล็ดกาแฟจะได้ราคาที่เป็นธรรมสำหรับผลผลิตของพวกเขา และทำให้เกษตรกรสามารถลงทุนซ้ำในผืนดินและชุมชนของตนได้

เมื่อองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (Food & Drug Administration: FDA) ประกาศว่า ทางองค์กรเชื่อว่าเนื้อและนมจากสัตว์ที่ทำโคลนนิ่งนั้นปลอดภัยต่อการบริโภค บริษัทของเราก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเป็นสองเท่า! เพื่อแสดงความผิดหวังของเรากับการตัดสินใจของ FDA และเพื่อกระตุ้นให้ชาวอเมริกันออกมาต่อต้านการโคลนนิ่ง เราได้ส่งผู้คนที่แต่งตัวในชุดวัวเข้าไปที่วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อประท้วงและเรียกร้องถึง "Truth or Clone-sequences" หรือ “ความจริงหรือผลกระทบจากการโคลนนิ่ง”

เราเปิดตัว Goodbye Yellow Brickle Road เพื่อยกย่องคอนเสิร์ตครั้งแรกของ Elton John ในเวอร์มอนต์

เราจัดการประกวด “Do the World a Flavor (ทำดีเพื่อโลก)” เพื่อกระตุ้นให้คนแบ่งปันไอเดียสำหรับรสชาติของแฟร์เทรด ผู้เข้าแข่งขันที่ชนะอันดับสูงสุดจะได้ไปท่องเที่ยวในสาธารณรัฐโดมินิกัน ทัวร์ไร่โกโก้ และสร้างสนามเด็กเล่นให้เด็ก ๆ ในหมู่บ้าน Yabon รสชาติที่ชนะคือ Almond Delight โดดเด่นอยู่ในร้านไอศกรีมทั่วสหรัฐอเมริกาในฐานะ Limited Batch ในปี 2010

Ben & Jerry's มุ่งมั่นอย่างมากในการเสาะหาส่วนผสมจากการค้าที่เป็นธรรมและเพื่อสนับสนุนขบวนการของแฟร์เทรดทั่วโลก เราอยู่ในกระบวนการเปลี่ยนส่วนผสมของเราทั่วโลกให้เป็นไปตามมาตรฐานแฟร์เทรดที่เรารู้สึกว่า เราสามารถสร้างความแตกต่างได้มากที่สุดเพื่อทำให้ชีวิตเกษตรกรดีขึ้น เสริมสร้างชุมชนของพวกเขาให้แข็งแกร่ง พร้อมทั้งปกป้องสภาพแวดล้อมด้วย

เมื่อผู้ประท้วงในเมืองนิวยอร์กและที่อื่น ๆ ยึดถนนภายใต้ธง Occupy Wall Street ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2011 เพื่อเดินขบวนต้านความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา การว่างงานที่สูงขึ้น การทุจริตสินเชื่อที่อยู่อาศัย และอิทธิพลขององค์กรที่มากเกินไปในการเมืองอเมริกัน คณะกรรมการบริหารของ Ben & Jerry’s ออกแถลงการณ์โดยตรงเกี่ยวกับความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และเรารวมตัวกันในสวนสาธารณะซัคคอตติ (Zuccotti Park) ในหลายโอกาสเพื่อแจกไอศกรีมให้กับผู้ประท้วงที่ยึดครองพื้นที่

Ben & Jerry’s สร้างสรรค์โยเกิร์ตแบบกรีกแท้ ๆ เพื่อเปิดตัวมหากาพย์รสชาติโยเกิร์ตแช่แข็งแบบกรีกที่มีเนื้อเป็นครีม โรยด้วยชังก์แอนด์สเวิร์ล และส่งมอบความอร่อยแบบกรีกให้ผู้คนได้ลิ้มลอง!

ขณะที่แคมเปญผลักดันให้ติดฉลากผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำจากส่วนผสมจีเอ็มโอเคลื่อนไหวไปทั่วในหลายรัฐ รวมทั้งในเวอร์มอนต์ด้วย Ben & Jerry's ภาคภูมิใจที่ได้ยืนหยัดเคียงข้างการเคลื่อนไหวของผู้บริโภคที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเรียกร้องให้มีความโปร่งใสและยืนหยัดในสิทธิของผู้บริโภคที่จะรู้ว่ามีอะไรอยู่ในอาหารที่ตนเองทานบ้างโดยการสนับสนุนกฎหมายบังคับการติดฉลากจีเอ็มโอ นอกจากนี้ ในปี 2013 เรามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนส่วนผสมให้มาจากแหล่งที่ไม่มีจีเอ็มโอทั้งหมดด้วย

แฟน ๆ ของเราได้บอกสิ่งที่พวกเขาต้องการแล้ว และต้องการตัวเลือกที่ไม่มีส่วนผสมของนม นอกจากนี้ พวกเขายังไปไกลถึงขนาดเริ่มยื่นคำร้องกับ Change.org อีกด้วย

ส่วนผสมคือไอศกรีมคาราเมลและช็อกโกแลต พร้อมด้วยคุกกี้ช็อกโกแลตสเวิร์ล โดห์คุกกี้ช็อกโกแลตชิป และโดห์คุกกี้เนยถั่ว หากรสชาติดังกล่าวได้รับความนิยมแม้เพียงครึ่งหนึ่งของ Fallon ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ผู้ให้ความบันเทิงแห่งปี” ในสหรัฐอเมริกา ก็อาจส่งผลให้ Ben & Jerry’s มีรสชาติคลาสสิกอื่น ๆ เพิ่มเข้ามาอีกเพื่อทำเงินได้ด้วย

ไอศกรีมที่ไม่มีส่วนผสมของนมวัวของเรานั้นทำจากนมอัลมอนด์และส่วนผสมที่ผ่านการรับรองสำหรับมังสวิรัติ 100% พร้อมอัดแน่นไปด้วยชังก์แอนด์สเวิร์ล คุณจะได้ลิ้มรสความสุขอย่างที่สุดของ Ben & Jerry’s ในทุก ๆ คำที่คุณทาน รสชาติเหล่านี้ตอบโจทย์ความลงตัวทุกอย่าง…ที่ไม่ได้มาจากวัว ไอศกรีมที่ไม่มีส่วนผสมของนมวัวรุ่นแรกในสายการผลิตของเราคือ: ช็อคโกแลตฟัดจ์บราวนี่, ชังกี้มังกี้, คอฟฟีคาราเมลฟัดจ์ และ P.B. & คุ๊กกี้

Pint Slices ได้รับแรงบันดาลใจจากข้อดีที่สุดของถ้วยไอศกรีม ช่วยให้แฟน ๆ ได้เพลิดเพลินไปกับรสชาติต่าง ๆ ที่สร้างความสุข พร้อมชังก์แอนด์สเวิร์ลในถ้วยกลมเคลือบด้วยช็อคโกแลต นี่คือไอศกรีมที่ซื้อกลับบ้านได้ง่ายและยากที่จะต้านทานความอร่อย

นอกเหนือจากชิ้นถั่วเหล่านี้แล้ว ถ้วยไอศกรีมนี้ยังอัดแน่นข้อความอันทรงพลังไว้ใต้ฝาอีกด้วย เราสร้างอนาคตที่ยุติธรรมและเสมอภาคได้มากขึ้นเมื่อร่วมมือกัน

แคมเปญ Flavour & Action ของ Ben & Jerry's สนับสนุนการปฏิรูปการลงทุนในผู้คนมากกว่าการลงทุนไปกับเรือนจำ เพื่อมอบความยุติธรรมให้กับทุกคนแทนที่จะให้ความยุติธรรมกับเพียงบางคนเท่านั้น

Ben & Jerry's เปิดตัว Change is Brewing (การเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้น) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานต่อเนื่องของเราเพื่อเพิ่มความยุติธรรมทางเชื้อชาติโดยเรียกร้องให้ปลดเปลื้องประเทศชาติจากระบบกฎหมายอาญาที่ล่มสลาย และลงทุนในบริการที่ช่วยให้ชุมชนเติบโต